คืนก่อนวันเดินทางก็ต้องไปจัดการหลายยยอย่าง อีกทั้งต้องตื่นไป check in แต่เช้าเพราะเครื่องออก 7 โมงเช้า นั่นหมายความว่าควรไปถึงสนามบินตั้งแต่ตี 5 ซึ่งก็คือต้องตื่นราวๆตี 3 ครึ่ง เพื่ออาบน้ำแต่งตัว เลยก็ไปค้างบ้านแม่ เพื่อที่จะได้ฝากรถไว้ แล้วโทรเรียก taxi ไปสุวรรณภูมิเหมือนอย่างที่เคยทำปกติเวลาต้องเดินทางไปต่างประเทศแบบนานๆ ตอนเช้าๆ
พอเช้าก็ตาม plan ตื่น แล้วก็เรียก taxi ออกไปสุวรรณภูมิ พอไป check in ก็เจองานเข้าอย่างแรกคือกระเป๋าน้ำหนักเกิน อ้าวววว...เวรแล้วไง ดันซื้อน้ำหนักไว้แค่ 20 กิโล / 2 คน....ซะงั้น กระเป๋าที่จะ load ใต้เครื่องน่ะหนัก 22 kg นี่แค่ขาไปก็กระเป๋าน้ำหนักเกินแล้วเหรอฟระ ก็เลยต้องเปิดกระเป๋า...เอาขาตั้งกล้องที่ตอนแรกกะจะสบายๆไว้ในกระเป๋า ต้องเอาออกมาเสียบเป้เราเพื่อลด น้ำหนัก สุดท้ายก็เหลือ 20 kg นิดๆ เค้าก็เลยโอเค แต่เราก็หนักต้องแบกน้ำหนักเพิ่มบนไหล่อีก 2 กิโล เอ้า..ไม่เป็นไร ประหยัดไปได้น่า จากนั้นด้วยความกังวลของคุณภรรยาก็เลยต้องไปซื้อน้ำหนักเพิ่มขากลับ เพราะเล็งเห็นแล้วว่าจะต้องไปซื้อของกลับมาอีกเพียบเลย ก็เลยได้เสียตังค์ซื้อน้ำหนักอีก 20 โล ตอนขากลับ ไอ้เราก็ไม่แน่ใจว่าขาสองที่ไปจาก KL-UK เราได้ซื้อไว้ป่าว พอให้พนักงานดูเค้าก็บอกว่าซื้อไว้แล้ว ก็เลยโอเค ไม่มีปัญหา จ่ายแค่ขาเดียวคือขากลับ KL-BKK แล้วเราก็เดินเข้าไปที่ gate
พอถึงเวลา boarding ก็ตามระเบียบ พี่หางแดงเค้าต้องนั่ง bus ไปที่เครื่องอยู่แล้ว ขึ้นเครื่องมาก็โอเคนะ ใหม่กิ๊กเชียว แอร์ก็หน้าตาเปรี้ยวจี๊ดเลย ไม่เหมือนแอร์สายการบินเราเลยฟระ ไม่ใช่ไม่สวยนะ แต่ว่าสายการบินเรามันค่อนข้างอนุรักษ์นิยม ทำผมแต่งหน้าเงี้ยะ อย่ากับ 30 ปีที่แล้วงั้นน่ะ ต้องรวบผม ห้ามทำสี ฯลฯ แต่ที่นี่แบบว่า เต็มที่เลย ปล่อยผมตามสบาย เขียนหน้า เขียนตา ทา eyeliner ฯลฯ แบบเต็มที่ก็เลย ดูดีกว่าอ่ะนะ ทั้งๆที่เวลาใส่ชุดธรรมดาเหมือนกันหน้าตาอาจจะสู้แอร์เราไม่ได้ แต่พอใส่ชุดพนักงานแล้วแต่งหน้าเทียบกันแล้ว หางแดงกินขาด...อ้าวซะงั้น
แล้วเครื่องก็ takeoff จาก SVB ใช้เวลาประมาณสองชั่วโมงในการเดินทางเพื่อไป KLIA สนามบินนี้เราก็เคยบินมาลงเองแล้วสมัยบิน MD ที่บิน Charter ให้กับ Myanmar Airlines Inter (MAI) เมื่อสองสามปีที่แล้ว Traffic Control ที่นี่โอเคเลย แต่พอมาลงแรกๆจะงงกะ taxiway นิดหน่อย ตอนนั้นก็เคยหลงอยู่ทีนึง 555 พอมาลงก็ต้องเดินจากเครื่องผ่านทางเดิน (ที่ไม่ใช่งวง) เป็นระยะทางประมาณ 500 เมตร เพื่อเข้าไปยังตัวอาคาร terminal เป็นครั้งแรกที่ต้องเดินแบบนี้ มันเหมือนเดินเข้าโรงเรียนยังไงไม่รู้ อาจจะเป็นเพราะมันเป็น low cost terminal มั้งมันเลยมี procedure แปลกๆ
จากนั้นก็ผ่าน ตม. แล้วเอากระเป๋าออกมาก็ใช้เวลาไม่นานก็ลากกระเป๋าออกมาข้างนอก ตอนแรกกะจะนั่งรถไฟเข้าไป แต่ดูแล้วมันไม่ค่อยเวิร์ค เลยตัดสินใจซื้อตั๋วรถบัสต่อเดียวไปลง KL Sentral แล้วค่อยต่อรถไฟฟ้าไปลงสถานีใกล้ๆ โรงแรม ตอนนั่งรถก็โออยู่แหละ แต่พอถึง KL Sentral แล้วมันต้องลากกระเป๋าใหญ่ๆมาขึ้นรถไฟฟ้า ขึ้นลงทางก็กลัวกระเป๋าพังเหมือนกัน แต่ก็เอาวะ มาแนวนี้แล้ว พอขึ้นรถไฟฟ้าไปลงสถานี Putra เพราะว่าตอนแรกที่ดูแผนที่ก็เห็นว่ามันค่อนข้างจะใกล้กับโรงแรม Citrus ที่พัก พอลงสถานี ดูแผนที่ๆพกมาก็เอาแล้ว งานเข้าแล้วไง แผนที่ดันไม่ละเอียดพอ identify position ตัวเองไม่ได้ แล้วก็งง ไม่รู้ว่าต้องเดินทางไหน เหมือนจะใกล้ๆ ก็ถามคน local เค้าก็ไม่รู้ ตายชัก....สุดท้ายก็ต้องพึ่ง Taxi จนได้ โดนไป 5 MYR ก็ประมาณ 50 บาท ก็เอาฟระ ช่างมัน ก็สุดท้ายมาถึงจนได้ จริงๆแล้วก็ไม่ใกล้กับสถานีนั้นเท่าไหร่นักเลย ใกล้สถานีอื่นมากกว่า ซึ่งก็คือสถานี Sultan Ismail พอไป check in ก็งงนิดนึงว่า ตอนจองราคานึง ทำไมตอนจ่ายอีกราคานึง แล้วก็มาถึงบางอ้อ...เพราะว่าตอนจองมันไม่รวม tax T_T ซะงั้นนนนน...เอาวะ นิดหน่อย ก็เอากระเป๋าไปเก็บพักเหนื่อย เสร็จแล้วก็ออกไปข้างนอกเพื่อทำตามแผน
แล้วก็เดินออกมาขึ้นรถไฟฟ้าจากสถานี Sultan Ismail เพื่อขึ้นรถไฟสายสีส้มเพื่อไปลง Masjid Jamex เพื่อต่อสายสีเขียวไปลง KLCC กว่าจะไปถึงก็เวลาประมาณบ่ายสาม ก็หิวมาก เนื่องจากยังไม่ได้กินข้าวเที่ยงกันเลย ดังนั้นจึงตัดสินใจว่าจะไปหาอะไรกินก่อนที่ KLCC ก่อนจะออกไปถ่ายรูปตึก Petronas ที่เป็นตึกที่เคยสูงที่สุดในโลก ซึ่งพอเดินออกจากสถานี KLCC ก็จะโผล่ที่ชั้นใต้ดินตึก Petronas แล้ว ซึ่งข้างล่างมันก็เป็นห้างที่ค่อนข้างใหญ่เหมือนกัน พอๆกับพารากอนทีเดียว
พอออกมาก็เดินหาของกิน สุดท้ายก็ไปจบที่ร้าน Nandos ที่มีไก่ย่างเผ็ดๆ ซึ่งก็เผ็ดสมใจ เราสั่ง Quarter Chicken + French Fried แต่แฟนเราสั่งอะไรก็ไม่รู้ แหลกม่ายล่ายเลย 555 เลยต้องมาสั่ง Quarter Chicken เพียวๆ มากินแก้หิวแทน พอกินเสร็จก็จะออกไปถ่ายรูปตึก ฝนก็ดันมาตกซะงั้น กรรม..... ถ่ายไม่ได้เลย เพราะพอจะถ่ายรูป ฝนก็ตกเปียกหน้าเลนส์ซะ... ไอ้เราก็กลัวป่วยอีกต่างหากก็เลยเดินเข้าไปหากาแฟกินดีกว่า ก็เลยเดินกลับเข้าไปในตัวตึก แล้วไปหากาแฟนั่งกิน ที่ร้าน Coffee Blended เห็นคุณแฟนบอกว่า รสชาติพอโอเคอยู่ แล้วเธอก็รับหน้าที่ไปซื้อ แล้วเธอก็กลับมา...พร้อมกับกาแฟดำ ใส่น้ำเชื่อม ไม่ใส่นม อารมณ์เดียวกับ Americano & Black Coffee น่ะแหละ โอ้วววว....แหลกม่ายล่ายอีกแล้ววววว 555 เลยต้องทำโทษด้วยการถ่ายรูปไว้เป็นหลักฐาน ความอัปยศ หุ ๆ
เห็นฝนตกแล้วก็หมดอารมณ์เที่ยวที่อื่น ประกอบกับไม่ได้อยากไปโหดนักที่ KL เพราะพรุ่งนี้ต้องออกแต่เช้า ก็เลยเอาแค่หนึบๆ พอก็เลยอยู่นี่แหละฟระ ถ่ายแค่ที่ Petronas Tower พอกินกาแฟหมดก็เกือบห้าโมงกว่า ก็เลยเดินออกไปข้างนอกเพื่อจะถ่ายรูป ฝนแม่มก็ไม่หยุดตกซะที ก็เอาเว้ย ถ่ายๆไปเหอะ ก็เลยไปเดินถ่ายเล่น ถ่ายไปๆมาๆ ฝนก็หยุด ก็เลยได้ตั้งกล้องถ่ายซะที พอเวลาประมาณหกโมงกว่า ก็กลับที่พักแล้ว เพราะว่าอยากพักผ่อนมากกว่าเพราะพรุ่งนี้ท่าจะเหนื่อยเอาเรื่อง ก็เลยนั่งรถไฟกลับ
สรุปวันนี้มา KL ได้เรื่องได้ราวอยู่ที่เดียวที่ Petronas Tower แต่เอาหล่ะ....ไม่เป็นไร ได้มาเที่ยวที่นี่ถือว่าเป็น Bonus อยู่แล้วเพื่อรอต่อเครื่อง เที่ยวน้อยหน่อยไม่เป็นไร ก็สบายใจกลับโรงแรม ไปเข้าเน็ท แล้วเข้านอน เพื่อวันรุ่งขึ้นเดินทางต่อ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น